Anping Bu

ผ้าม่านสวยงาม มีเสน่ห์ลงตัว

Feb 20th 2019, 12:53 pm
Posted by freemanbank
195291 Views

การติดตั้งผ้าม่าน มีหลากหลายรูปแบบ รูปแบบไหนบ้างที่เป็นยอดนิยมใช้กันในประเทศบ้านเรา?

การซื้อผ้าม่านจากร้านผ้าม่านมีหลายทางเลือก: เวลาจะเลือกซื้อผ้าม่าน เราจะมีหลายออปชั่น ต้องเลือกเนื้อผ้าสำหรับทำผ้าม่าน ชนิดของผ้าม่าน สีของผ้าม่าน ลวดลายดีไซน์ของผ้าม่าน รูปแบบของผ้าม่าน พื้นที่ห้อง/ผนังที่เราอยากปิดกั้น ราวผ้าม่านที่ใช้สำหรับแขวนผ้าม่าน และยังมีต้องเลือกอุปกรณ์ผ้าม่านอื่นๆอีกมากมาย ทางเลือกแต่ละชนิดควรสอดคล้องกัน ซึ่งก็หมายความว่าดีไซน์และรูปแบบผ้าม่านที่เราเลือกควรเข้าคอนเซ็ปต์โดยรวมของบ้านได้อย่างลงตัว ในบทความนี้ เรามารู้จักกับรูปแบบการติดตั้งผ้าม่านแต่ละประเภทกัน

ติดตั้งผ้าม่านจีบ สวยงามแนว "Classic"

ติดตั้งผ้าม่านจีบ สไตล์คลาสสิก

ผ้าม่านจีบเหมาะกับการตกแต่งบ้านสไตล์คลาสสิก ในประเทศบ้านเรา การเย็บผ้าม่านจีบที่ยอดนิยมคือผ้าม่านแบบจับ 3 จีบ ผ้าม่านจีบจะสามารถใช้กับรางผ้าม่านได้หลายประเภท มีแบบผ้าม่านจีบรางเชือก ผ้าม่านจีบรางไมโคร ผ้าม่านจีบรางโค้ง ผ้าม่านจีบรางโชว์ เป็นต้น ในรูปภาพด้านบนคือผ้าม่านจีบรางโชว์ ผ้าม่านชนิดนี้จะใช้ระบบตะขอแขวนเหมือนรางชนิดอื่นๆ แต่เรียกว่าราง "โชว์" เพราะเราสามารถมองเห็นผ้าม่านได้เวลาปิดผ้าม่าน ซึ่งแตกต่างกับผ้าม่านจีบรางอื่นๆที่ไม่สามารถมองเห็นรางได้ถ้าผ้าม่านปิดอยู่

ผ้าม่านจีบ กระดุม สวย ดูมีเสน่ห์

แม้การตัดเย็บผ้าม่านจีบก็จะมีหลายทางเลือก ส่วนใหญ่ในเมืองไทย เราจะนิยมใช้ผ้าม่านจีบแบบสไตล์คลาสสิก ซึ่งไม่เน้นการใช้อุปกรณ์ตกแต่งใดๆ แต่จะเน้นความสวยงามแบบเรียบง่าย ไม่ฟุ่มเฟือย เพราะฉะนั้นเราจะไม่ค่อยนิยมติดผ้าม่านจีบแบบมีกระดุม แต่จะเลือกเป็นผ้าม่านจีบแนวเรียบแทน ซึ่งอาจดูไม่เก๋ไก๋เท่า แต่เป็นทางเลือกที่ทำให้ผ้าม่านดูเรียบหรูและไฮคลาสอย่างยิ่ง ผ้าม่านที่เย็บแบบติดกระดุมจะนิยมเย็บเป็นผ้าม่านสองจีบ เพราะจะทำให้ลวงตาเหมือนว่ากระดุมเป็นตัวที่ยึดผ้าสองจีบด้วยกัน แต่ความจริงแล้ว ผ้าม่านสองจีบไม่ได้รวบรวมกันด้วยกระดุมแต่อย่างใด กระดุมที่ใช้เป็นเพียงกระดุมหลอกเท่านั้น และจะมีวัตถุประสงค์เดียว ซึ่งก็คือความสวยงาม

ผ้าม่านจีบ สองจีบ ประหยัดผ้ากว่าผ้าม่านจีบสามจีบ

ผ้าม่านจีบแบบสองจีบ แบบไม่มีกระดุม เป็นแบบผ้าม่านที่เน้นการประหยัดผ้า ลดการใช้จำนวนผ้าทำม่านในการตัดเย็บ ทำให้สามารถประหยัดงบในการตกแต่งบ้าน ผ้าม่านจีบแบบสองจีบจะใช้จำนวนผ้าน้อย ทำให้ลอนผ้าม่านไม่นูนพลิ้วเหมือนผ้าม่านจีบสามจีบ เพราะเหตุผลนี้ ผ้าม่านแบบสามจีบจะเป็นที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะเป็นจำนวนจีบที่ได้มาตรฐานสากล มีความสมดุลดีเยี่ยม และเป็นที่ยอมรับของอินทีเรียดีไซน์เนอร์ทั่วโลกว่าเป็นจำนวนจีบที่ดูมีความสวยงาม พลิ้วไหว ลงตัวที่สุด

ติดตั้งผ้าม่านจีบ รางโชว์ แนว Goblet Style

ผ้าม่านจีบแบบสไตล์ถ้วยหรือ "Goblet Style Pleated Curtains" เป็นรูปแบบผ้าม่านจีบที่นิยมใช้ในต่างประเทศ ผ้าม่านจีบในลักษณะนี้จะใช้กับรางโชว์โดยการแขวนผ้าม่านด้วยระบบตะขอยาว (รางโชว์จะมีห่วงที่มีรูสำหรับเกี่ยวตะขอผ้าม่านโดยเฉพาะ) วิธีการจัดจีบจะแตกต่างจากผ้าม่านจีบทั่วไป ซึ่งจะสังเกตเห็นได้จากรูปข้างต้น ผ้าม่านจีบแบบ "Goblet Style" สามารถเย็บพร้อมกระดุมหลอกได้เช่นกันเพื่อเป็นการเติมเต็มความสวยงามของผ้าม่าน

ผ้าม่านจีบ รางไมโคร

ผ้าม่านจีบ รางไมโคร จะเน้นวัตถุประสงค์ "Function" มากกว่าความสวยงามของรางม่าน ถ้าเราเลือกใช้รางไมโครติดผ้าม่าน เราจะไม่สามารถมองเห็นรางได้เวลาผ้าม่านปิดอยู่ รางไมโครจะไม่มีหัวประดับสวยงามเหมือนรางโชว์ แต่จะมีความทนทานและความแข็งแรงเท่าเทียมกัน รางไมโครจะเหมาะใช้กับบ้านที่มี Built-In แบบใช้บัว ซึ่งเป็นรูปแบบการตกแต่งที่ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นหัวของผ้าม่านได้ และจะทำให้การใช้รางโชว์ไม่มีประโยชน์ จุดเด่นของรางโชว์จะอยู่ที่หัวประดับ ถ้าเราไม่สามารถมองเห็นหัวประดับรางได้ (ยกเว้นเข้าไปชิดผ้าม่านและมองด้านในของบัว) เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้รางโชว์ 

ผ้าม่านในห้องที่ใช้บัวปิดกั้น

 

ถ้าเราออกแบบบ้านแบบมีบัวกั้น การใช้รางโชว์จะไม่มีประโยชน์ เราไม่จำเป็นต้องเปลืองตังค์ซื้อรางโชว์เพราะรางไมโครก็สามารถใช้งานได้ในระดับประสิทธิภาพเท่ากันแต่ในราคาที่ถูกกว่า โดยทั่วไป รางโชว์จะมีราคาสูงกว่ารางไมโคร ราคารางจะอยู่ที่วัสดุที่ใช้และหัวดับที่เลือก ด้วยเหตุผลนี้ ก่อนที่จะเลือกรางผ้าม่านหรือรูปแบบผ้าม่านในการตกแต่งบ้าน เราควรทำงาน Built-In และการออกแบบบ้านให้เป็นที่เรียบร้อยก่อน เหตุผลหลักอีกข้อหนึ่งคือเพราะผ้าม่านเป็นสิ่งของที่ทำด้วยผ้า และจะเลอะสกปรกได้ง่ายกว่าสิ่งตกแต่งประดับอื่นๆ ในทางที่ดีที่สุด การติดตั้งผ้าม่านควรที่จะทำในลำดับสุดท้ายของการตกแต่งบ้าน

รางผ้าม่าน รางโชว์ หัวประดับสวยงาม เหมาะกับบ้านตกแต่งแบบไฮโซ

รางโชว์สำหรับแขวนผ้าม่านจะมีจุดเด่นที่หัวประดับ ซึ่งจะมีราคาแตกแต่งกัน ราคารางจะอยู่ที่วัสดุที่ใช้และหัวประดับที่เลือก รางที่ใช้วัสดุไทเทเนียมและไม้สักจะมีราคาสูงกว่ารางโชว์แบบรุ่นอลูมิเนียมหรือเหล็กสแตนเลสทั่วไป ถ้าพูดถึงอายุการใช้งาน รางอลูมิเนียมธรรมดาก็สามารถใช้ได้เป็นระยะยาวเหมือนกันกับรางชนิดอื่นๆ แต่โดยที่มีราคาถูกกว่า ทำให้เป็นชนิดรางผ้าม่านที่นิยมใช้กันอย่างมากในประเทศไทย ในการที่ใช้รางม่านอลูมิเนียมติดตั้งผ้าม่าน เราจะได้ทั้งประหยัดเงินและได้ความสวยงามพอๆกับรางผ้าม่านชนิดอื่น เพราะรางโชว์อลูมิเนียมสามารถเลือกใช้กับหัวประดับอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นหัวประดับทอง หัวประดับเงิน หัวประดับไม้ หัวประดับโลหะ ฯลฯ เราไม่จำเป็นต้องเลือกหัวประดับที่ทำจากวัสดุเดียวกับตัวรางก็ได้

หัวประดับรางโชว์ มีหลากหลายดีไซน์


หัวประดับรางโชว์จะมีหลากหลายประเภท หลากหลายดีไซน์ให้เลือก เราสามารถเลือกจากหัวประดับสไตล์เรียบๆกลมๆธรรมดาไปถึงหัวประดับแกะสลักแนวหรูหราอลังการ ส่วนใหญ่คนไทยมักจะนิยมใช้หัวประดับแนวเรียบๆ ไม่เน้นความหรูหราอลังการ แต่ความจริงก็พูดยากเพราะแต่ละคนก็จะมีรสนิยมที่แตกต่างกันออกไป คนไทยบางคนก็จะมีรสนิยมอินเตอร์หรือแนวตะวันตก สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกหัวประดับคือควรที่จะให้หัวประดับเข้าคอนเซ็ปต์อินทีเรียดีไซน์ภายในบ้าน เพราะไม่อย่างนั้น ต่อให้เราเลือกหัวประดับและรางผ้าม่านที่มีความสวยงามเลิศหรู ถ้าไม่เข้าคอนเซ็ปต์ ก็อาจทำให้หน้าบ้านดูมีความสวยงามไม่ลงตัวได้

ติดตั้งผ้าม่านตาไก่ สวยหรูแนวโมเดิร์น

ผ้าม่านตาไก่ สีแดง ร้อนแรว เติมเต็มพลังบรรยากาศห้อง

การติดตั้งผ้าม่านตาไก่เป็นทางเลือกที่ฮิตอย่างมากในปัจจุบัน ความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของผ้าม่านตาไก่จะอยู่ที่สีสันคอนทราสต์ของห่วงตาไก่และผ้าม่าน การใช้ห่วงตาไก่จะทำให้ผ้าม่านดูมีสง่าราศี สไตล์โมเดิร์น และเป็นการเพิ่มมิติให้กับการประดับผ้าม่าน ผ้าม่านตาไก่จะสามารถแขวนกับรางผ้าม่านโชว์ได้อย่างเดียวเท่านั้น การแขวนผ้าม่านจะใช้ระบบถอดหัวประดับออกด้านข้างราง และสวมผ้าม่านทางช่องห่วงตาไก่ ห่วงตาไก่ที่ใช้จะมีหลายสีและหลายดีไซน์เช่นกัน สิ่งสำคัญคือควรใช้สีสันที่สามารถเข้ากันได้กับผ้าม่านและการตกแต่งภายใน

ผ้าม่านตาไก่ มีฟ้าอมเขียว มีแถบด้านบน ดีไซน์เก๋ไก๋

วิธีหนึ่งในการยกระดับความสวยงามของหน้าตาบ้านคือการใช้ผ้าทำผ้าม่านลายเดียวกันกับอุปกรณ์ประดับตกแต่งภายในบ้าน อย่างเช่น เก้าอี้ โซฟา ปลอกหมอนอิง เป็นต้น ในรูปภาพข้างต้น เราจะสามารถสังเกตได้ว่าการตกแต่งบ้านนี้ใช้ผ้าทำผ้าม่านเดียวกันกับปลอกหมอนอิง เป็นผ้าม่านทูโทนที่เติมเต็มความสวยงามได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้บรรยากาศห้องดูคล้องจองกัน มีเสน่ห์ลงตัว

ผ้าม่านตาไก่สวยๆ เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน

การเลือกสีสันผ้าม่านจะเป็นการปรับโทนห้องได้อย่างดี ถ้าเราเลือกสีผ้าม่านร้อนๆอย่างเช่น ผ้าม่านสีแดง ผ้าม่านสีส้ม ผ้าม่านสีโอรส เป็นต้น เราก็จะสร้างบรรยากาศภายในบ้านที่อบอุ่น ดูมีพลัง ทำให้เรามีความหมันเพียรทำงาน ช่วยผลักดันให้เราเดินหน้าในชีวิต แต่ถ้าเราเลือกสีผ้าม่านเย็นๆอย่างเช่น ผ้าม่านสีเขียว ผ้าม่านสีฟ้า ผ้าม่านสีน้ำเงิน เป็นต้น เราก็จะสร้างบรรยากาศที่ร่มเย็นภายในบ้าน ดูสบายตา ช่วยในการผ่อนคลาย "Relax" ยกระดับคุณภาพของการพักผ่อนเวลาอยู่บ้าน การเลือกสีผ้าม่านควรตอบสนองความต้องการของเรา และตอบโจทย์ในเรื่องของความสอดคล้องกับ Interior Design ของบ้านโดยรวม

ห่วงตาไก่ สวย เก๋ มีหลากหลายสี

ห่วงตาไก่เป็นอุปกรณ์การตกแต่งผ้าม่านที่มีสไตล์โมเดิร์น ทำให้ผ้าม่านดูมิติ เพราะสีตาไก่จะตัดกับสีของผ้าม่าน ทำให้หน้าตาห้องมีสีสัน ดูมีชีวิตชีวา การเลือกสีของห่วงตาไก่ควรที่จะเน้นความสมดุล "Balance" ให้สีของตาไก่ตัดกับสีผ้าม่านได้อย่างลงตัว อย่างเช่น ถ้าเราเลือกติดผ้าม่านสีแดงหรือผ้าม่านสีน้ำเงิน เราอาจเลือกใช้ห่วงตาไก่สีทอง สีเงิน หรือสีลายไม้ เป็นต้น เพราะสีตาไก่เหล่านี้จะสามารถคอนทราสต์กับผ้าม่านสีแดงและผ้าม่านสีน้ำเงินได้อย่างดี ทำให้ตาไก่ "Mix & Match" กับผ้าม่าน ดูสง่างาม สีสันลงตัว

ผ้าม่านตาไก่ สีโทนเดียวกับผ้าม่าน

อีกวิธีหนึ่งในการเลือกสีห่วงตาไก่คือการใช้ตาไก่ที่มีสีโทนเข้ากับผ้าม่าน อย่างเช่นในรูปภายข้างต้นที่มีผ้าม่านสีครีม พื้นผิวมันวาว ผ้าม่านประเภทนี้จะเงาสะท้อนแสงมาก ทำให้หน้าตาห้องเปล่งปลั่ง ดูมีออร่า ถ้าเราต้องการให้ผ้าม่านเป็นจุดเด่นของห้อง เราควรเลือกใช้สีตาไก่ที่กลมกลืนกับสีผ้าม่าน เพื่อไม่ให้ดึงความสนใจจากผ้าม่านไปที่ห่วงตาไก่ การเลือกใช้ห่วงตาไก่ที่มีเดียวกับผ้าม่านจะเหมาะกับผ้าม่านที่มีความสวยหรูในตัวอยู่แล้ว และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ประดับมาช่วยเติมเต็มความสวยงามหรือเพิ่มมิติของม่าน การใช้สีสันมากเกินไปอาจทำให้ภาพลักษณ์ของห้องโดยรวมดูไม่บาลานซ์ ขาดความสมดุลได้

ติดตั้งผ้าม่านคอกระเช้า ออกแนวน่ารัก ดูเป็นกันเอง 

ผ้าม่านคอกระเช้า ออกแนวเก๋ไก๋

การติดตั้งผ้าม่านคอกระเช้าจะเหมือนการติดตั้งผ้าม่านตาไก่ในเรื่องของรางผ้าม่าน ซึ่งก็คือ ต้องเป็นรางโชว์เท่านั้น ผ้าม่านคอกระเช้าจะเหมาะใช้กับห้องที่ "Informal" (สถานที่ที่ไม่เป็นทางการ) อย่างเช่นห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นต้น การตัดเย็บผ้าม่านคอกระเช้าจะทำผ้าเป็นหูในรูปทรงกระเช้า ใช้สำหรับการถอดแขวนผ้าม่าน ผ้าม่านชนิดนี้จะมี Velcro (ตีนตุ๊กแก) เป็นตัวยึด ผ้าม่านคอกระเช้าเป็นสไตล์ผ้าม่านที่ใช้มายาวนาน และยังเป็นรูปแบบผ้าม่านที่นิยมใช้กันในสมัยนี้ เพราะเป็นแนวผ้าม่านที่ดูเป็นกันเอง ทำให้บรรยากาศห้องดูหวานแหวว น่ารัก มีเสน่ห์ Charming ในทุกมุมมอง

ผ้าม่านคอกระเช้า ใช้กระดุมหลอก

ผ้าม่านคอกระเช้า (ผ้าม่านกระเช้า) จะมีแบบไม่เย็บกระดุมและแบบเย็บกระดุม แต่กระดุมที่ใช้จะเป็นกระดุมหลอกเท่านั้น เราจะไม่สามารถถอดใส่ได้ การใช้กระดุมในลักษณะนี้เป็นเพื่อการโชว์อย่างเดียว ทำให้ผ้าม่านดูมีมิติ คล้ายๆกันกับผ้าม่านจีบสองจีบที่ใช้กระดุมประดับ การถอดแขวนผ้าม่านกระเช้าจะง่ายและสะดวก เพราะเราจะไม่จำเป็นต้องถอดหัวประดับรางออกเหมือนผ้าม่านตาไก่ เพียงแค่ดึงที่อุปกรณ์ Velcro ก็สามารถถอดผ้าม่านออกจากรางได้ทันที

ผ้าม่านกระเช้า DIY

ผ้าม่านคอกระเช้าจะฮิตมากกับกลุ่มคนที่ชอบตัดเย็บผ้าม่านแบบ DIY (Do-It-Yourself) ซึ่งจะเน้นการประดับตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่เหมือนร้านผ้าม่านทั่วไป การเย็บผ้าม่านกระเช้า DIY จะมีแบบทั้งใช้ผ้าเย็บเป็นหูทรงริบบิ้นหรือทรงดอกไม้ ทำให้ผ้าม่านดูมีความน่ารักและความหวานแหววยิ่งขึ้น และเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้หน้าตาห้องดูซอฟท์ มีบรรยากาศอบอุ่น "Homely" น่าอยู่ยิ่งขึ้น

ผ้าม่านกระเช้า แบบเย็บเอง ไม่เหมือนใคร

ในเย็บผ้าม่านคอกระเช้า DIY เราสามารถเลือกอุปกรณ์ประดับผ้าม่านได้หลายประเภท ความคิดสร้างสรรค์เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผ้าม่านดูไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ประการหนึ่งที่ควรพิจารณาคือถ้าเราสามารถเย็บผ้าม่านที่สะท้อนถึงความเป็นตัวเราได้ ก็จะยิ่งทำให้บรรยากาศห้องดู "Personalized" มากยิ่งขึ้น การสั่งตัดจากร้านผ้าม่านจะมีทางเลือกไม่เท่ากับการเย็บเอง

ผ้าม่านกระเช้าแบบเรียบง่าย

ผ้าม่านคอกระเช้าทั่วไปจะไม่มีกระดุม ไม่มีอุปกรณ์ประดับตกแต่งใดๆ จะเน้นความสวยงามแบบเรียบหรูอย่างเดียว ในการเย็บผ้าม่าน เราสามารถเลือกได้ว่าอยากประหยัดผ้าโดยการทำลอนแบนๆหรืออยากได้ลอนนูน การใช้ลอนนูนจะทำให้ผ้าม่านดูมีมิติ มีความพลิ้วไหว และจึงเป็นแบบผ้าม่านที่นิยมใช้ในวงการเย็บผ้าม่านมืออาชีพ ถ้าเราเย็บเอง เราสามารถกำหนดได้ว่าอยากได้ผ้าม่านแบบลอนเล็กๆ แบนๆ ช่วยประหยัดผ้าและค่าใช้จ่าง ในการเย็บผ้าม่านโดยทั่วไป การใช้จำนวนผ้าม่านแบบคูณ 2.5 จะเป็นการเย็บลอนผ้าม่านที่ดูสวยลงตัวตามมาตรฐานสากลและในประเทศ

ติดตั้งผ้าม่านพับ

ผ้าม่านพับ มีดีไซน์

การติดตั้งผ้าม่านพับจะเหมาะกับหน้าต่างที่มีขนาดแคบ เพราะผ้าม่านพับจะมีรางเฉพาะ ทำด้วยวัสดุโลหะที่ไม่แข็งแรงเท่ารางโชว์หรือรางไมโคร ข้อจำกัดของความกว้างหน้าต่างจะอยู่ที่หน้ากว้างของผ้าทำผ้าม่านด้วย เพราะผ้าทำผ้าม่านส่วนใหญ่จะมีหน้ากว้าง 1.50 เมตร เพราะฉะนั้นถ้าหน้าต่างมีขนาดกว้างเกิน 1.50 เมตร ก็จะทำให้จำเป็นต้องตัดต่อผ้า ในการที่ผ้าม่านพับจะมีรูปลักษณะแบน ซึ่งแตกต่างจากรูปแบบผ้าม่านอื่นๆที่มีลอน ช่างเย็บผ้าม่านจะไม่สามารถซ่อนรอยต่อของผ้าได้ระหว่างลอนผ้าม่าน ความจริงแล้วเรายังไม่ได้รวมการพับเย็บริมด้านข้าง ซึ่งจะต้องกินผ้าไปอีกอย่างน้อยข้างละ 5-10 ซม ทำให้ผ้าม่านพับสามารถติดกับหน้าต่างที่มีขนาดกว้างที่สุดได้ถึง 1.30 เมตร เท่านั้น ถ้าเราอยากได้ผ้าม่านพับสำหรับหน้าต่างบานใหญ่และมีความกว้างมาก เราจำเป็นต้องทำผ้าม่านเป็นสองชุดขึ้นไปสำหรับหน้าต่างบานเดียวกัน

ผ้าม่านพับสีเทา

ผ้าม่านพับจะประหยัดการใช้ผ้าในการตัดเย็บผ้าม่าน เพราะมีรูปลักษณะแบน ไม่มีคลื่นลอน ในการติดผ้าม่านชนิดนี้ ความพลิ้วไหวอาจไม่มี แต่ความเรียบหรูจะมีเต็มร้อย เหมาะกับบ้านที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นอย่างยิ่ง เราสามารถใช้ผ้าม่านพับควบคู่กับผ้าม่านแบบอื่นๆ อย่างเช่น ผ้าม่านจีบ ผ้าม่านตาไก่ ผ้าม่านกระเช้า เป็นต้น ถ้าในห้องมีทั้งหน้าต่างบานเล็กและหน้าต่างบานใหญ่ เราสามารถเลือกติดผ้าม่านพับสำหรับหน้าต่างบานเล็กและติดผ้าม่านจีบ/ผ้าม่านตาไก่สำหรับหน้าต่างบานใหญ่ก็ได้ แต่เราไม่ควรติดผ้าม่านจีบและผ้าม่านตาไก่ในห้องเดียวกัน เพราะรูปแบบผ้าม่านทั้งสองนี้จะไม่เข้าคอนเซ็ปต์เดียวกัน ถ้าเราเลือกผ้าม่านตาไก่สำหรับห้องใดห้องหนึ่งแล้ว เราควรติดผ้าม่านตาไก่หมดทุกบานหรือใช้ผ้าม่านพับสำหรับชุดเล็กๆได้ ถ้าเราอยากเลือกติดทั้งผ้าม่านตาไก่และผ้าม่านจีบในบ้านหลังเดียวกัน เราสามารถทำได้แต่ต้องใช้ในคนละห้องกัน อย่างเช่น ติดผ้าม่านจีบในห้องนอน แต่ติดผ้าม่านตาไก่ในห้องรับแขก เป็นต้น

ติดตั้งผ้าม่านหลุยส์ สวยงาม เลิศหรู ระดับ "High Society"ผ้าม่านหลุยส์ สวงงาม ไฮโซ

การติดตั้งผ้าม่านหลุยส์ควรเข้าคอนเซ็ปต์ของบ้าน ซึ่งจะเน้นความสวยงามแบบหรูหรา ไฮโซ มีเสน่ห์แนว "Elegance" ผ้าม่านหลุยส์จะใช้จำนวนผ้าในการตัดเย็บมากกว่าผ้าม่านรูปแบบอื่นๆ เพราะจะต้องใช้ผ้าเย็บทำลูกหลุยส์ ซึ่งมีรูปลักษณ์เป็นครึ่งวงกลมอยู่ด้านหัวของผ้าม่าน ทำให้ผ้าม่านดูมีมิติ และยกระดับความสวยงามของภาพลักษณ์บ้านได้อย่างยอดเยี่ยม

ติดตั้งผ้าม่านหลุยส์ สีเข้ม ดีไซน์ Damask

การใช้ผ้าม่านหลุยส์ควรเน้นให้สีพื้นผ้าม่านตัดกับสีลายผ้าม่าน เพราะจะทำให้ผ้าม่านโดยรวมดูสวยงามโดดเด่น และทำให้ภาพบรรยากาศของห้องดูสวยหรูเช่นกัน สีของอุปกรณ์หลุยส์ต่างๆอย่างเช่นพู่ประดับหรือสายรวบม่านควรจะใช้สีเดียวกันกับดีไซน์ผ้าม่าน สีของผ้าม่านควรสอดคล้องกับการตกแต่งภายใน ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้จากในรูปภาพข้างต้นว่าผ้าม่านสีน้ำเงินอมเขียวจะเข้าคอนเซ็ปต์กับสีฟ้าอมเขียวของตู้ห้องและแจกันดอกไม้บนโต๊ะ

ผ้าม่านหลุยส์ สีครีม เข้าคอนเซ็ปต์ห้อง

การใช้ผ้าม่านหลุยส์ที่มีเชิงด้านใต้จะทำให้ผ้าม่านดูไฮคลาสยิ่งขึ้น ผ้าม่านที่มีเชิงจะเป็นรุ่นผ้าหน้ากว้าง 2 เมตร ขึ้นไปเพราะการวางแนวผ้าจะใช้หน้ากว้างของผ้าเป็นส่วนสูงของผ้าม่าน ทำให้การเย็บผ้าม่านง่ายและสะดวก ไม่มีการตัดต่อผ้า ลวดลายผ้าจะต่อเนื่องกันยาวตลอดผืนผ้าม่าน ดีไซน์ผ้าจะไม่ขาดช่วงขาดตอน ทำให้ผ้าม่านดูสวยงามแบบเต็มตัว การตัดเย็บผ้าม่านควรใส่ใจในเรื่องของรายละเอียด จัดลอนให้ลงล็อกกับดีไซน์ผ้า และสิ่งที่ไม่สามารถมองข้ามได้คือการตัดเย็บขนาดผ้าม่านให้เข้ารูปหน้าต่างประตูห้องพอดี

ติดตั้งผ้าม่านหลุยส์ สีแดงอมม่วง สวยงาม

ร้านผ้าม่าน(1), ผ้าม่าน(1), พาหุรัด(1), ตัดเย็บผ้าม่าน(1), ผ้า(1)

Bookmark & Share:

Please Like Us
Please Like Us